top of page

ข้าวไรซ์เบอร์รี่ กับสรรพคุณและประโยชน์อันมหัศจรรย์

 ข้าวไรซ์เบอร์รี่ เป็นข้าวสายพันธุ์ที่มีสารต้านอนุมูลอิสระสูง

จึงมีสรรพคุณในการช่วยบรุงร่างกาย และทให้เกิดการสร้างคอลลา 

เจน ลดการอักเสบที่ผิวหนัง ชั่วลดริ้วรอยและชะลอความแก่ช่วยลด

ความเสี่ยงที่ก่อให้เกิดโรคร้ายแรงต่าง ๆ เช่น โรคมะเร็ง โรคเบาหวาน

โรคหัวใจและหลอดเลือด โรคความดันโลหิตสูง และโรคสมองเสื่อมได้

  ข้าวไรซ์เบอร์รี่ยังเป็นอาหารสุขภาพที่ดีต่อทุกเพศทุกวัยสามารถรับ

ประทานเพื่อบำรุงสุขภาพและทดแทนข้าวขาวหรือข้าวกล้องปกติได้ 

โดยหากผู้สูงวัยก็จะช่วยทำให้ระบบไหลเวียนโลหิตมีประสิทธิภาพ

มากยิ่งขึ้น และช่วยบำรุงสายตาและระบบประสาทต่าง ๆ 

   ส่วนสตรีมีครรภ์หากรับประทานข้าวชนิดนี้ก็จะช่วยทำให้เด็กในครรภ์มีสุขภาพแข็งแรง ช่วยป้องกันไม่ให้เด็กเป็นโรคปากแหว่ง เพดานโหว่ช่วยควบคุมน้ำหนักไม่ให้ครรภ์เป็นพิษ และที่สำคัญยังมีธาตุเหล็กสูงเหมาะกับสตรีที่กำลังมีครรภ์ซึ่งต้องการแร่ธาตุชนิดนี้มากกว่าปกติ

นอกจานี่ข้าวไรซ์เบอร์รี่ยังมีสรรพคุณช่วยควบคุมน้ำตาลและควบคุณน้ำหนักได้เหมาะกับผู้ป่าวยโรคเบาหวานและโรคอ้วนอย่างยิ่งลำหรับผู้เป็นโรคโลหิตจางจากการขาดธาตุเหล็กหากรับประทานข้าวชนิดนี้เป็นประจำก็จะทำให้ได้ธาตุเหล็กซึ่งเป็นแร่ธาตุที่สำคัญต่อระบบเลือดและช่วยบำรุงโลหิตและร่างการให้แช็งแรง

คุณสมบัติทางโภชนาการข้าวไรซ์เบอร์รี่(Riceberry)

 

ลักษณะประจำพันธุ์ข้าวไรซ์เบอร์รี่ Riceberry

ความสูง................................................ 105-110ซม.

อายุเก็บเกี่ยว ...................................... 130วัน.

ผลผลิต................................................. 750-1000กก. / ไร่

% ข้าวกล้อง (Brown rice) ..............76 %

% ต้นข้าวหรือข้าวเต็มเมล็ด (head rice) 50 %

ความยาวของเมล็ด ข้าวเปลือก .... 11 ม.ม.

ข้าวกล้อง ............................................ 7.5 ม.ม.

ข้าวขัด ................................................. 7.0 ม.ม.

 

คุณสมบัติทางโภชนาการในข้าวกล้องไรซ์เบอรี่ Riceberry

 

ปริมาณ Amylose ............................ 15.6 %

อุณหภูมิแป้ งสุก .............................. < 70 ° C

ธาตุเหล็ก............................................. 13-18 mg/kg

ธาตุสังกะสี.......................................... 31.9 mg/kg

โอเมกา-3............................................. 25.51 mg/100g

วิตามิน อี ............................................678 ug /100g

โฟเลต................................................. 48.1 ug/100g

เบต้าแคโรทีน ..................................63 ug/100g

โพลีฟี นอล .......................................113.5 mg/100g

แทนนิน ...............................................89.33 mg/100g

แกมมา-โอไรซานอล .....................462 ug/100g

สารต้านอนุมูลอิสระ ชนิดละลายในน้ำ 47.5mg

ascorbic acid quivalent...............100g

ชนิดละลายในน้ำมัน ..................... 33.4 mg

trolox equivalent ..........................100 g

     รำข้าวสีดำ คือแหล่งของสารต้านอนุมูลอิสระ ( Riceberry | ไรซเบอรี่ )

                        ข้าวที่มีสีดำมีคุณสมบัติต้านอนุมูลอิสระที่ดีเนื่องจากมี สารจับอนุมูลอิสระ ทั้ง quinolone alkaloid, vitamin E, phytate, g-oryzonol, polyphenol และ anthocyanin อยู่สูง ในข้าวสีดำพันธุ์ไรซ์เบอร์รี่พบว่า มีปริมาณ polyphenolic ถึง 752.1 mg/100g, anthocyanin 250.36 mg/100g และ beta carotene 63.3 ug/100g ซึ่งพบอยู่มากในส่วน pericarp สารทั้งสามชนิดมีความสัมพันธ์กับความสามารถ ในการต้านอนุมูลอิสระโดยเฉพาะ polyphenolic ดังนั้นรำข้าวสีดำจึงเป็นแหล่งของสารต้านอนุมูลอิสระ

                 กลุ่มโรคไม่ติดต่อเรือรังซึ่งรวมถึงโรคมะเร็งเป็ นสาเหตุการตายอันดับ 3ของคนไทยในทุกกลุ่มอายุ อวัยวะสำคัญที่พบ คือ มะเร็งตับและท่อน้ำดี มะเร็งปอด เต้านมและมะเร็งทางเดินอาหารอัตราตายด้วยโรคมะเร็งต่อประชากร 100,000 คน เพิ่มขึ ้นจาก 12.6 คน เป็ น 68.8 คน ในช่วงปี พ.ศ. 2510- 2544 (กระทรวงสาธารณสุข) อนุมูลอิสระของออกซิเจน หรือ reactive oxygen species (ROS) เกิดขึ้นได้จากกระบวนการปกติของร่างกายและเพิ่มขึ้นจากการอักเสบ การได้รับสารเคมี จากมลพิษยาบางชนิดการสูบบุหรี่หรือการได้รับรังสี ROS ท าให้เกิด ปฏิกิริยา lipid peroxidation ซึ่งส่งผลทำให้สารพิษสามารถเข้าไปทำให้เกิดความเสียหายกับเยื่อหุ้ม เซลล์,โครงสร้าง DNA และ RNA ตลอดจนชีวโมเลกุลในเซลล์ซึ่งเป็นสาเหตุที่สำคัญของการเกิดโรคไม่ติดต่อเรื้อรังหลายชนิดเช่น โรคหัวใจและหลอดเลือด, โรคไต, โรคข้อ รวมทั้งโรคมะเร็ง 

            การศึกษาทางระบาดวิทยาพบว่าการรับประทานผัก ผลไม้ รวมทั้งธัญพืช ซึ่งมีสารต้านอนุมูลอิสระสูงสามารถลด อัตราการเกิดโรคเรื้อรังดังกล่าวได้ นอกจากนี ้การได้รับสารต้านอนุมูลอิสระจากอาหารหลายๆประเภทจะให้ผลในการป้องกันมากกว่าการได้รับจากแหล่งใดแหล่งหนึ่งเนื่องจากมีฤทธิ์สร้างเสริมกนั ธญั พืชให้สารต้านอนมุลูอิสระหลายชนิดซึ่งมีประสทิธิภาพมากขนึ้เมื่อได้รับร่วมกับสารกลุ่มที่มาจากผักและผลไม้โดยฤทธิ์ต่อต้านอนมุลูอิสระในข้าวมาจากกลุ่มสารประกอบฟีนอล (Phenolic acid derivatives) พบได้มากในส่วนของรำข้าว

© 2015 by Phress Global Co., Ltd. All right reserved

phress,phress global,modern supply chain,Supply Chain,Logistics,ระบบห่วงโซ่อุปทาน,ricebrry,ไรซ์เบอร์รี่,phress riceberry,goldenfields,golden fields,goldenfields rice,golden fields rice

bottom of page